🧬 PGT คืออะไร?
PGT หรือ Preimplantation Genetic Testing คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน ก่อนที่แพทย์จะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของคุณแม่ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์และลดความเสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตรโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยในขั้นตอนนี้ ตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธิของไข่และอสุจิในห้องแล็บ จะถูกเลี้ยงจนถึงระยะบลาสโตซิส (Blastocyst) จากนั้นแพทย์จะเก็บเซลล์บางส่วนของตัวอ่อนมาวิเคราะห์โครโมโซมหรือยีน เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ กระบวนการนี้ปลอดภัยต่อตัวอ่อน เพราะเป็นการเก็บเพียงเซลล์รอบนอก ไม่กระทบต่อการพัฒนาในอนาคต
👶 ทำไมต้องตรวจ PGT ก่อนย้ายตัวอ่อน
ในคู่สมรสที่วางแผนทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) การตรวจ PGT เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ ตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมผิดปกติอาจไม่สามารถฝังตัว หรืออาจนำไปสู่ภาวะแท้งบุตร หรือมีความเสี่ยงต่อโรคพันธุกรรมในทารกได้ การตรวจ PGT จึงช่วยให้แพทย์คัดเลือกเฉพาะตัวอ่อนที่แข็งแรงและมีโอกาสเจริญเติบโตสมบูรณ์ที่สุดก่อนการย้าย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่เคยแท้งบุตรซ้ำ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือคู่สมรสที่มีประวัติเป็นพาหะโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม เป็นต้น
🌈 ประโยชน์ของ PGT ที่มากกว่าแค่เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
นอกจากช่วยเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดแล้ว การตรวจ PGT ยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้มากขึ้นว่า ลูกน้อยที่เกิดมาจะมีสุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางพันธุกรรมร้ายแรง และยังช่วยให้การย้ายตัวอ่อนแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายและความเครียดจากการทำ IVF หลายรอบ นอกจากนี้ PGT ยังช่วยแพทย์วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized treatment) ให้เหมาะกับร่างกายและภาวะของแต่ละคู่สมรสได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น