หลายคนอาจสังเกตว่าในครอบครัวเดียวกัน มักจะมีใครสักคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อากาศ หอบหืด หรือมีผื่นคันง่าย ๆ แล้วลูกหลานก็มักจะเป็นด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจาก “พันธุกรรม” ที่ถ่ายทอดมาทางยีนส์นั่นเอง หากพ่อหรือแม่เป็นภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะถ้าทั้งสองฝ่ายต่างก็มีประวัติภูมิแพ้ ความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดนี้ไม่ใช่เรื่องตายตัว ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีประวัติครอบครัวจะต้องเป็นเสมอไป เพียงแต่มี “โอกาส” มากกว่าคนที่ไม่มีพื้นฐานพันธุกรรมเท่านั้น
สาเหตุที่พันธุกรรมส่งผลต่อภูมิแพ้ ก็เพราะยีนส์บางชนิดควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม คนที่มียีนส์กลุ่มนี้อาจทำให้ภูมิคุ้มกันตอบสนองไวเกินไป เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นที่ปกติไม่อันตราย เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรืออาหารบางอย่าง ร่างกายกลับคิดว่าเป็นศัตรูและแสดงอาการแพ้ออกมา เช่น จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก ตาบวม หรือเป็นผื่นคัน ขณะที่อีกคนที่ไม่มียีนส์กลุ่มเดียวกันก็อาจอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกันแต่ไม่เป็นอะไรเลย
แม้พันธุกรรมจะเป็นปัจจัยหลัก แต่สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตก็มีผลอย่างมากต่อการแสดงออกของอาการภูมิแพ้ หากอาศัยอยู่ในบ้านที่มีฝุ่นเยอะ อากาศถ่ายเทไม่ดี เลี้ยงสัตว์โดยไม่ดูแลความสะอาด ใช้สารเคมีแรง ๆ หรืออยู่ในเมืองที่มีมลพิษ อาการก็อาจกำเริบง่ายขึ้น ตรงกันข้าม หากดูแลสุขภาพให้ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการภูมิแพ้ได้มากทีเดียว
วิธีการดูแลและรักษาภูมิแพ้
เลี่ยงสิ่งกระตุ้น – สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ ใช้ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงมลพิษเท่าที่ทำได้
-
ดูแลสุขภาพกายใจ – การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดี และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น
-
การใช้ยา – หากอาการรบกวนการใช้ชีวิต สามารถใช้ยาลดน้ำมูก ยาต้านฮิสตามีน หรือยาพ่นจมูกตามที่แพทย์สั่ง เพื่อบรรเทาอาการ
-
การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) – วิธีนี้เป็นการให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวกับสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดอาการได้ในระยะยาว
-
การตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ – สำหรับคนที่มีอาการบ่อย ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน และหาวิธีรักษาที่เหมาะกับตนเอง
สรุปแล้ว พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางคนแพ้ง่ายกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ตัวกำหนดชะตาชีวิตทั้งหมด หากเราเข้าใจร่างกายของตัวเอง หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ดูแลสุขภาพ และเลือกการรักษาที่เหมาะสม ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ไม่ต่างจากคนทั่วไปเลยค่ะ 💙


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น